‘ทำอย่างไรถึงจะเทรดได้ดีขึ้น?’ คำถามสั้นๆง่ายๆครับ ใครๆก็อยากจะประสบความสำเร็จในการเทรดกันทั้งนั้นครับ แน่นอนถ้าไม่อยากประสบความสำเร็จก็คงไม่มาเทรดแต่แรก (ฮา)
แต่จะมีซักกี่คนที่รู้และเข้าใจถึงวิธีการพัฒนาตัวเองในฐานะเทรดเดอร์ เพราะในโลกแห่งการลงทุนนั้น เทรดเดอร์แต่ละคนมีสไตล์และวิธีการในการเทรดที่แตกต่างกันออกไป อะไรทำให้แต่ละคนเลือกวิธีการเทรดหุ้นไม่เหมือนกัน
จุดเริ่มต้นคือ จริตและความพึงพอใจครับ โดยทั่วไปแล้ววิธีการเทรดของแต่ละคนจะสะท้อนบุคลิกของคนนั้นออกมาด้วย คือเป็นคนใจเย็น/ใจร้อน, ชอบเน้นรายละเอียด/ชอบมองภาพรวม , ชอบเป็นผู้นำ/ชอบเป็นผู้ตาม, กล้ารับความเสี่ยงมาก/ไม่ชอบเสี่ยงมาก , เป้าหมายผลตอบแทนต่างกัน เป็นต้น
ดังนั้น ขั้นตอนแรกก็คือ ‘เราต้องเลือกระบบและวิธีการเทรดให้เหมาะสมกับตัวเอง’ (self-awareness)
ยกตัวอย่างเช่น คนที่ชอบมองภาพใหญ่หรือชอบประเมินอะไรยาวๆ ก็เหมาะกับการถือหุ้นตัวหนึ่งนานๆเพื่อเล่นรอบใหญ่ของหุ้น แต่หุ้นตัวเดียวกันนี้ ถ้าคุณเป็นคนใจร้อนและไม่ค่อยชอบถือหุ้นรอนานๆ ก็อาจเลือกที่จะหาจังหวะเล่นเป็นรอบแทน เห็นมั้ยครับ แค่นี้ก็พอจะเห็นความแตกต่างของแต่ละคนกันแล้ว
สาเหตุหลักๆที่เราควรเลือกวิธีการเทรดให้เข้ากับบุคลิกของตัวเองนั้น ก็คือ ‘ความสุขและความสบายใจ’
เราไม่ควรต้องมาทรมานหรืออึดอัดกับวิธีการเล่นหุ้นของตัวเอง การให้คนใจร้อนมาถือหุ้นนานๆเพื่อเล่นรอบใหญ่อย่างเดียว ทั้งที่เขาเห็นโอกาสมากมายในระยะสั้น-กลาง ก็คงทรมานพอๆกับการให้คนชอบถือหุ้นยาวๆมานั่งเทรดหุ้นตามรอบระยะสั้น-ระยะกลางนั่นเองครับ
เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ควรคำนึงก็คือ ‘เราต้องมีความสุขกับสไตล์การเทรดของตัวเองเสียก่อน ถึงจะสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้อีก’
“Practice Makes Perfect” แต่ถ้าเราไม่มีความสุขกับสไตล์การเทรดของตัวเองแล้วหละก็ คงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะหมั่นฝึกฝนและอยากพัฒนาตัวเอง
ถ้าอยากเก่งขึ้น ก็ต้องฝึกฝน ซึ่งการฝึกของเทรดเดอร์ก็คือการเทรดจริงๆในตลาดนั่นเองครับ ทดลองเทรดไปเรื่อยๆตามสไตล์เรา หาข้อผิดพลาดจากการเทรดแต่ละครั้ง แล้วค่อยๆปรับระบบให้เหมาะสมเป็นตัวของตัวเองที่สุด
นอกจากการค้นหาวิธีการเทรดที่เหมาะสมกับบุคลิกของตัวเองแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่ทำให้เราพัฒนาขึ้นได้ก็คือ “การฝึกรับรู้สภาวะตลาด-ปรับตัวตามสภาพแวดล้อม” (situational-awareness)
สำหรับเทรดเดอร์ที่เจนจัดในการเทรดนั้น พวกเขามักจะสามารถรับรู้ได้ว่าตลาด ณ ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาไหน และควรจะมีวิธีการเทรดหุ้นในลักษณะใด
ยกตัวอย่างเช่น ช่วงที่ตลาดเป็น uptrend แข็งแรง ก็สามารถเทรดหุ้น Break out ได้สบายๆ หรือถ้าหากตลาดนั้นเหวี่ยงมากหรือเป็น Choppy Market ก็อาจจะปรับมา Buy on weakness หรือ Swing Trade แทน
ซึ่งการฝึกรับรู้สภาวะตลาดนั้น ก็จะได้มาจากการสังเกตและประสบการณ์ในแต่ละปีครับ อาจจะเรียนรู้จาก Indicator อย่างพวก MA และควรศึกษาวิธีการอ่านตลาดของ O’Neil ช่วยเสริมความรู้ครับ
นอกจากสองข้อที่ว่ามานี้ อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราพัฒนาได้ก็คือ ‘การมีกลุ่มเพื่อนเทรดเดอร์ที่ดี’ เพราะการได้พูดคุยกับเทรดเดอร์ด้วยกันเอง แม้จะมีสไตล์การเทรดที่แตกต่างกันบ้าง เหมือนกันบ้าง แต่เราจะได้แนวคิดของเทรดเดอร์แต่ละคน ซึ่งก็จะสามารถช่วยให้นำมาพัฒนาแนวทางของตัวเองให้ดีขึ้นได้เช่นกันครับ
กล่าวโดยสรุป แนวทางที่จะทำให้เราพัฒนาตัวเองให้เทรดได้ดีขึ้นก็คือ
– หาระบบการเทรดที่เข้ากับบุคลิกของตัวเอง (self-awareness)
– พัฒนาปรับปรุงระบบไปเรื่อยๆให้ลงตัว (practice)
– ฝึกความสามารถในการรับรู้สภาวะตลาด-การปรับตัว (situational-awareness) และ
– มีกลุ่มเพื่อนเทรดเดอร์ที่ดี คอยสนับสนุนช่วยเหลือกัน
…
‘ทำอย่างไรถึงจะเทรดได้ดีขึ้น?’
โดย Phantorm
www.sarut-homesite.net
3 พฤศจิกายน 2016
