หุ้นนำตลาดหลายตัวจะจบรอบหลังจากช่วงที่ราคาหุ้นเกิดการเร่งตัวขึ้นอย่างรุนแรง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าหุ้นทำ climax top หรือการพุ่งขึ้นไปจบรอบ
เหตุผลที่หุ้นผู้ชนะตัวใหญ่มักจะจบรอบแบบนี้ เป็นเพราะว่าเหล่าสถาบันหรือกองทุนขนาดใหญ่ต้องการให้เกิดแรงซื้อมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้มีคนมารับหุ้นจำนวนมหาศาลต่อจากพวกเขา
ผลก็คือการทยอยออกของและเปลี่ยนมือตลอดทางที่หุ้นพุ่งขึ้นไป ตราบใดที่ยังมีคนคอยซื้อและไล่ราคาหุ้นอยู่
จนกระทั่งหุ้นได้ถูกเปลี่ยนมือจากนักลงทุนมืออาชีพที่แข็งแกร่งไปสู่นักลงทุนรายย่อยที่อ่อนแอกว่า
ในท้ายที่สุด เมื่อแรงขายจำนวนมากของกองทุนขนาดใหญ่มีมากกว่าแรงซื้อของรายย่อย หุ้นตัวนั้นก็จะเริ่มถล่มลงมา
หากคุณรอจนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็เป็นไปได้ว่ามันสายเกินไปและคุณน่าจะเสียกำไรคืนให้ตลาดมากพอสมควร (หรือเสียกำไรคืนตลาดไปจนหมด)
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือการเรียนรู้วิธีสังเกตว่าหุ้นกำลังเกิด climax top แล้วทยอยขายทำกำไรออกมา
สิ่งนี้จะช่วยให้คุณรักษากำไรก้อนโตเอาไว้ได้ และเป็นการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปเรื่องการคืนกำไรให้ตลาดอีกด้วย
หลังจากที่หุ้นนำตลาดวิ่งขึ้นอย่างแข็งแรงมาเป็นเวลาหลายเดือน ราคาหุ้นจะเร่งตัวและเริ่มวิ่งขึ้นรุนแรงกว่าเดิม โดยที่ความชันของราคาก็จะสูงกว่าการวิ่งขึ้นทุกครั้งที่ผ่านมา
เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น คุณควรจะทยอยขายตอนที่หุ้นพุ่งขึ้นไปอย่างแรงและเก็บกำไรของคุณออกมาบ้าง (ถ้ายังไม่ได้ขายหมด)
climax top จะเกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้นวิ่งขึ้นไป 25-50% หรือมากกว่านั้นในระยะเวลา 1-3 สัปดาห์ และหุ้นบางตัวอาจจะพุ่งขึ้นไปถึง 70-80% ในระยะเวลาเพียงแค่ 5 หรือ 10 วันเท่านั้น
หนึ่งในการเกิด climax top ที่ยอดเยี่ยมที่สุดนั้นเกิดขึ้นในหุ้น Qualcomm ย้อนกลับไปในปี 1999 (รูปที่ 9-5)
โดยหุ้นเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ขายทำกำไรดีมากๆ ถึง 2 ครั้งตอนที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ครั้งแรกคือเมื่อหุ้นขึ้นแบบเร่งตัวในเดือนพฤศจิกายนปี 1999 ซึ่งราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นไปถึง 80% ในระยะเวลาเพียง 9 วัน
จากนั้นในเดือนธันวาคมก็เกิดโอกาสขายทำกำไรอีกครั้ง เมื่อหุ้นขึ้นไปจบรอบเป็นครั้งสุดท้ายโดยราคาหุ้นพุ่งขึ้นไป 73% ในเวลาเพียงแค่ 6 วัน
และทำให้ในระยะเวลาเพียง 2 เดือนหุ้น Qualcomm บวกขึ้นไปถึง 260%
หลังจากนั้น ราคาหุ้นก็จบรอบครั้งใหญ่และร่วงลงมา 88% ในช่วง 2 ปีครึ่ง ซึ่งต่อมาหุ้น Amazon ก็เกิดการจบรอบในรูปแบบที่คล้ายกัน (รูปที่ 9-6)
สัญญาณเตือนที่ต้องจับตาดู
• ราคาหุ้นทำ new high จากฐานที่ 4 หรือ 5 ซึ่งเป็นฐานระยะท้ายแล้ว (late-stage)
• P/E ขยายตัวขึ้นมาแล้วหนึ่งเท่าตัวหรือมากกว่านั้นตอนที่หุ้นวิ่งขึ้นออกจากฐานระยะท้าย
• หุ้นทำ climax top หรือพุ่งขึ้นไปจบรอบอย่างรุนแรง (ราคาหุ้นขึ้น 25-50% หรือมากกว่านั้นในระยะเวลา 1-3 สัปดาห์)
• หุ้นที่ราคาเริ่มลอย (extended) ให้จับตาดูช่วงที่จำนวนวันที่หุ้นปิดบวกมีประมาณ 70% หรือมากกว่านั้นในระหว่าง 7 ถึง 15 วันล่าสุด
• เมื่อราคาหุ้นลอยสูงจากฐานพอสมควร ให้จับตาดูตอนที่หุ้นเริ่มขึ้นอย่างเร่งตัว เช่น ปิดบวก 6 วันใน 10 วันล่าสุด โดยมีวันที่ปิดลบเพียง 2-3 วัน
ส่วนเสริม
• ระหว่างที่หุ้นเริ่มขึ้นอย่างเร่งตัว ให้จับตาดูวันที่หุ้นพุ่งขึ้นแรงที่สุด ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของขาขึ้นรอบนั้น
• สังเกตวันที่ราคาหุ้นมีสเปรดราคาจาก high ถึง low กว้างที่สุด (ราคาหุ้นเหวี่ยงในวันมากที่สุด)
• จับตาดูการเกิด exhaustion gaps ครั้งล่าสุด
โดย Mark Minervini
จากหนังสือ Think & Trade Like a Champion ภาษาไทย
บทที่ 9 – จังหวะขายหุ้นและเก็บกำไรของคุณ