ปีนี้ผมอาจจะมาอัพเดตน้อยลงหน่อยนะครับ เพราะเมื่อต้นปีผมเพิ่งเปิดพอร์ตหุ้นเมกา ช่วงนี้ก็เลยจะเน้นฝึกเทรดตลาดหุ้นเมกาเป็นหลัก
ส่วนตลาดหุ้นไทย ผมแทบไม่ได้เทรดเลยตั้งแต่หลังเดือนมกราคม เพราะเท่าที่สังเกตดูทั้งพื้นฐานและกราฟ ปัญหาของ SET ที่ทำให้เริ่มดูเหมือนภาวะหมีอ่อนๆ (little bear) ในมุมมองของผมคือ
‘Lack of quality growth stock – innovative company’
ตลาดหุ้นไทยหาหุ้น growth ที่คุณภาพดีและบริษัทที่มีนวัตกรรม (innovative) จริงๆที่ธุรกิจไม่ใช่ commodity ได้ยากหรือมีค่อนข้างน้อย ถ้าคัดให้ดีจริงๆผมคิดว่าน่าจะมีไม่เกิน 20-30 บริษัทจากทั้งตลาด
และถ้าดูหุ้น ipo ใหม่ๆโดยเฉพาะในตลาด mai ช่วงปีหลังมานี้ เราจะหาบริษัทที่มีแนวโน้มเติบโตสูง มีนวัตกรรมที่สมกับเป็นบริษัทขนาดเล็กยุคใหม่ได้น้อยมาก
การขาดหุ้น growth คุณภาพดี ทำให้ตัวเลือกหุ้นที่น่าสนใจมีจำกัด ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมักจะมีแต่หุ้นนำตลาดตัวเดิมๆหน้าเดิมๆที่ราคาถูกเล่นไปไกลพอสมควรแล้ว (ขึ้นไปหลาย base)
จริงๆเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของเศรษฐกิจไทยมาหลายสิบปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาตลาดหุ้นยังถือว่าอยู่ในช่วงที่ดี เป็น bull market มานาน
ถ้านับตั้งแต่การฟื้นตัวหลังวิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 และการฟื้นตัวหลังปี 2008 และน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2011 ที่แต่ละครั้งทำให้เกิดโอกาสจากการ reset ฐานราคาหุ้นครั้งใหญ่
แต่ในอนาคตหากประเทศยังขาดนวัตกรรมที่จะผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต ก็คงเป็นการยากที่เราจะเห็นดัชนีตลาดหุ้นวิ่งไปได้ไกลเหมือนตลาดต่างประเทศ
เพราะการเติบโตที่ดีที่สุดของแต่ละประเทศต้องเกิดจากการยกระดับทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ไม่ใช่การพึ่งพาแต่ปัจจัยเดิมๆแบบในอดีตที่ผ่านมา
ถ้าเราเป็นนักลงทุนหรือกองทุนต่างประเทศ เมื่อเปรียบเทียบบริษัทในตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ ปัจจัยสำคัญที่ต้องดูนอกจากเรื่องความถูก-แพงก็คือ Quality , Innovation , Growth และ Country Risk
ซึ่งก็ต้องลองพิจารณากันว่าตอนนี้เราอยู่จุดไหนเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ…
สำหรับในเชิงกราฟ ตลาดหุ้นไทยก็ดูซึมไม่ค่อยมีแรง และยังคงติดแนวสำคัญอยู่
ถ้าดูจากกราฟประกอบจะเห็นชัดว่า SET ค่อนข้างซึม-ซบเซามาซักพักใหญ่แล้ว (กดที่รูปเพื่อดูขนาดเต็ม)
การเด้งแต่ละครั้งก็ไปได้ไม่ไกลและไม่สามารถกลับตัวได้จริง , หุ้น growth breakout มีน้อยลงเรื่อยๆ
ช่วงสองสามเดือนมานี้เราจะเห็นหุ้นแปลกๆพุ่งขึ้นสลับตัวกันไปในแต่ละเดือน ซึ่งก็ถือว่าไม่ใช่สัญญาณที่ดีเท่าไหร่
จากมุมมองทั้งพื้นฐานและกราฟ ผมเลยค่อนข้าง bearish set มาหลายเดือน แต่ที่ยังเป็นหมีอ่อนๆเพราะ SET ยังเทรดเหนือเส้น MA 200 วันได้อยู่ (ยังยื้อไว้ได้อยู่)
ถ้าตลาดจะเข้าสู่ภาวะหมีเต็มตัว ก็คือการหลุดเส้น MA 200 แล้วกลับมาไม่ได้ ซึ่งก็ยังต้องติดตามกันต่อไปว่าจะออกมาในรูปแบบไหน
ปีนี้ผมก็เลยลองไปเทรดตลาดหุ้นประเทศอื่นบ้าง เปิดโอกาสใหม่ๆและจะได้เรียนรู้มากขึ้น ช่วงนี้ก็เลยอาจจะโพสน้อยลงหน่อยนะครับ (จากปกติก็ชอบอู้อยู่แล้ว 55+)
ส่วนงานแปลเล่มใหม่ก็ค่อยๆแปลไปเรื่อยๆเหมือนเดิมครับ
เอาไว้จะมาเขียนว่าตลาดบ้านเค้ากับบ้านเราต่างกันยังไงบ้าง เท่าที่สังเกตก็พบว่ามีความแตกต่างกันเยอะพอสมควรเลย
และก็อาจจะเอาหุ้นนำตลาดของเมกามาให้ศึกษากันเป็นตัวอย่างด้วยครับ
…
Blog 83 : Market Note Q2/2018 – ‘Little Bear in SET’
www.sarut-homesite.net
8 พฤษภาคม 2018
ติดตามอยู่นะครับ
อัพเดต blog ตอนใหม่แล้วนะครับ 😀