“ในแต่ละปี สิ่งที่คุณต้องการจริงๆก็คือ หุ้นที่ดีมากเพียงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้นเพื่อที่จะได้ผลตอบแทนระดับยอดเยี่ยม แต่คุณต้องรับมือและบริหารการเทรดให้ถูกต้อง
ผมต้องการเห็นว่า หุ้นตัวนั้นสามารถวิ่งขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่ผมจะยังไม่รีบซื้อหุ้นตอนที่มันเพิ่งเริ่มวิ่งขึ้นครั้งแรก แต่ผมจะรอซื้อในการวิ่งขึ้นรอบที่สองหรือรอบที่สามของมัน
ผมยังต้องการเห็นด้วยว่า ฐานราคาของหุ้นมีการพักตัวที่บีบแน่นมาก และราคาหุ้นมีการแกว่งตัวน้อยรวมถึงวอลุ่มเหือดแห้งลงในช่วงที่หุ้นทำฐานราคานั้น
เมื่อผสมภาพเทคนิคอลร่วมกับปัจจัยพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมและกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังแข็งแกร่ง ทั้งหมดนี้จะทำให้ผมสนใจซื้อหุ้นตัวนั้นครับ”
– David Ryan , จากหนังสือ Momentum Master
ถ้าเราเลือกหุ้นแล้วติดอยู่ใน Top Gainer ประจำปีได้ แสดงว่าฝีมือการเลือกหุ้นของเราถือว่าใช้ได้เลย
แต่ถ้าเลือกหุ้นถูกแล้วผลตอบแทนยังได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แสดงว่าอาจจะมีบางอย่างที่เราต้องปรับปรุงอยู่ ทั้งในเรื่องของระบบและจิตวิทยาการเทรดเพื่อรับมือกับหุ้นเทพแต่ละตัว
และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเลือกหุ้นถูกแถมได้กำไรเต็มที่ นั่นแสดงว่า ระบบและหลักการเทรดของเรานอกจากจะมาถูกทางแล้ว มันยังดียิ่งขึ้นเรื่อยๆด้วย
– เริ่มจากศึกษาว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้หุ้นพวกนี้ขึ้นแรงในปีนั้น
เช่น รายได้-กำไรเริ่มเร่งตัว , มีสินค้า-บริการที่เป็นที่นิยม หรือมีนวัตกรรมใหม่ , การขยายโรงงาน-เพิ่มกำลังการผลิต , เปลี่ยนโมเดลธุรกิจ , ตัวเร่งในช่วงนั้น – ต้นทุนลดลงมาก , เปลี่ยนกลุ่มผู้ถือหุ้น ฯลฯ
– จากนั้นศึกษากราฟของกลุ่มหุ้นแข็งแกร่งว่ามีลักษณะแบบไหน
ตั้งแต่ตอนเริ่มพักสะสม , ช่วงตลาดปรับฐานแรงมันทำตัวยังไง , ช่วงเริ่มขึ้น base แรกๆ ไปจนถึงจุด peak performance ของมัน
เราจะเห็น pattern ที่คล้ายคลึงกันของสุดยอดหุ้นในแต่ละปีครับ
– จดจำลักษณะต่างๆของมันไว้ ทั้งปัจจัยพื้นฐานและ pattern กราฟ แล้วนำไปปรับใช้ในการหาหุ้นตัวต่อไปของเรา
– การได้รู้ case study ย้อนหลังจากเหตุการณ์จริงของหุ้นพวกนี้เป็นประโยชน์มากครับ โดยเฉพาะเวลาที่เราเริ่มเจอหุ้นตัวใหม่ๆในอนาคตที่มีแววว่าจะเทพในปีนั้น
– ประสบการณ์และความรู้ที่เรามีจะช่วยให้มองเห็นโอกาสได้เร็วกว่าคนอื่นในตลาด เพราะหุ้นเทพในแต่ละปีมักจะเป็นหุ้นที่คนส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคยและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก (กว่าจะรู้ก็ขึ้นไปเป็นเด้งแล้ว)
– เมื่อเราฝึกฝนจนคล่องมากขึ้น ในอนาคตโอกาสที่หุ้นของเราจะมาอยู่ในตารางนี้ทุกปีก็จะมีสูงขึ้น
(แต่จะได้ผลตอบแทนมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับการรับมือเวลาเทรด-เวลาที่ถือหุ้นของเราอีกทีนะครับ)
####
2019 Update ;
สิ่งที่ควรทำหลังจบแต่ละปีคือ การตรวจดูตารางหุ้นเทพของปีนั้นๆ และทบทวนบทเรียนของตัวเอง
ถ้าเราไม่เคยซื้อหรือไม่ได้ติดตามหุ้นในตารางพวกนี้เลย ต้องถามตัวเองแล้วว่า
ทำไมเราถึงไม่ได้ซื้อหรือติดตามหุ้นพวกนี้?
และควรปรับปรุงการคัดกรองหุ้นอย่างไร เพื่อที่จะหาหุ้นเทพได้ในอนาคต
ในขณะที่หลายคนน่าจะได้เทรดหุ้นในตาราง แต่อาจจะทำพลาด ขายหมู , หลุดมือ , กำไรน้อยเกิน , กำไรหาย ฯลฯ
ซึ่งกรณีนี้ก็ต้องทบทวนบทเรียนว่า เราเทรดพลาดตรงไหนบ้าง เพราะอะไร?
และจะปรับปรุงการ manage trade อย่างไร เพื่อให้เกาะติดไปกับหุ้นได้ดีกว่าเดิม
คำถามสำคัญเพียงไม่กี่ข้อในแต่ละปี จะช่วยให้เราเทรดได้ดีขึ้นอย่างมากเลยครับ
…
ตารางสุดยอดหุ้นปี 2014-2019
…
Blog 67 : สิ่งที่ควรทำเมื่อเห็นตาราง return ของหุ้นเทพในแต่ละปี
www.sarut-homesite.net
6 กรกฎาคม 2016
มีตารางหุ้น best perform ย้อนหลังกว่านี้มั้ยครับ
ย้อนหลังไม่มีครับ แต่ผมกะว่าจะทำอัพเดตปีต่อๆไปแทนนะครับ