หลังจากที่ลงทุนมาได้ 3 ปีกว่าๆ อ่านหนังสือแนว VI + งบการเงินรวมๆกันแล้วเกือบ 30 เล่ม
จนรู้สึกว่าหนังสือลงทุนแนว VI ที่ออกมาใหม่ๆในช่วงนี้ เนื้อหาแทบไม่มีอะไรใหม่เลย มีไม่กี่เล่มเท่านั้นที่ดูใหม่และน่าสนใจจริงๆ
ส่วนตัวผมว่าเล่มเก่าๆเนื้อหาก็คลาสสิคและเป็นอมตะดีอยู่แล้ว อย่างพวก One up on Wall Street , The Intelligent Investor
จริงๆอ่านหลักๆซัก 10 กว่าเล่ม ผมว่าก็น่าจะเข้าใจ concept ของ VI ได้หมดแล้วละ
ที่เหลือคือการนำมาทดลองกับของจริง และประยุกต์ให้เข้ากับตัวเรา
ช่วงนี้เลยหาหนังสือแนวอื่นๆมาอ่านดูบ้างครับ ประกอบกับผมเริ่มทดลองเอาระบบลงทุนแนวอื่นๆมาประยุกต์ใช้กับ VI ดูบ้าง เผื่อจะได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นกว่าเดิมครับ (หวังว่า)
ถึงแม้ว่า 3 ปีที่ผ่านมา จะได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ แต่ก็รู้สึกว่ายังมีจุดอ่อนที่อยากแก้ไขอยู่อีกเยอะเลยครับ
ตอนนี้ก็เลือกแนว Trend Following มาผสมดู
สิ่งนึงที่ผมเห็นแล้วคิดว่าน่าสนใจ แม้ 2 แนวนี้จะต่างกันสุดขั้ว
– Trend Following ไม่ดูพื้นฐานเลย ดูแต่ pattern ของราคาเท่านั้น เพื่อมองหาแนวโน้ม
– ในขณะที่ VI ก็จะไม่สนใจกราฟราคาหุ้นเท่าไรนัก เน้นดูพื้นฐาน ประเมินมูลค่าหุ้น วิเคราะห์ธุรกิจ งบการเงิน story ฯลฯ
แต่ทั้ง 2 หลักการนี้ ก็มีสิ่งที่คิดเหมือนกันคือ
1. เชื่อว่าตลาดไม่มีประสิทธิภาพ (Market is Inefficient) และเราสามารถทำกำไรได้จากสิ่งนี้
2. พยายามลงทุนให้ง่ายที่สุด อย่าไปใช้หลักการหรือระบบอะไรที่มันซับซ้อนวุ่นวาย (Keep It Simple)
3. ไม่คาดเดาตลาด เพราะไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ Trend Following กับ VI ทำผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาว 20 – 30 ปี ได้พอๆกันคือประมาณ 20 – 25% ต่อปีแบบทบต้น (อ้างอิง Buffett , Lynch และ นักลงทุนในหนังสือ Trend Following แต่ทั้ง 2 แนว ก็จะมีบางคนที่ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยนะครับ)
ผมเลยคิดว่า 2 หลักการนี้ น่าเอามาลองผสมกันดูบ้าง
พยายามผสมผสานข้อดีของแต่ละแนว เพื่อกลบจุดอ่อนของกันและกัน เพราะทุกหลักการย่อมมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป
เล่มแรกที่ได้อ่านก็คือ Trend Following เขียนโดย Michael W. Covel
คนที่เล่นแนว Trend Following คงรู้จักกันดีครับ เป็นหนังสือเล่มแรกๆที่ส่วนใหญ่แนะนำว่าต้องอ่าน
คล้ายๆกับที่ VI ควรอ่าน The Intelligent Investor หรือ One up on Wall Street ครับ ประมาณนั้น
เล่มนี้เนื้อหาอ่านง่ายนะครับ เหมือนเล่าเรื่องภาพรวมของ Trend Following แบบคร่าวๆ รวมถึงแนะนำให้รู้จักนักลงทุนที่ใช้หลักการนี้
ไม่ได้เจาะลึกถึงระบบของแต่ละคนเท่าไหร่ครับ แต่ก็ทำให้เข้าใจ concept ของ Trend Following มากขึ้นเยอะเลยครับ
ในหนังสือมีประโยคที่น่าสนใจเยอะดีครับ ส่วนใหญ่จะเป็นประโยคที่อธิบายถึงความเป็น Trend Following
ผมได้จดประโยคเหล่านั้นเอาไว้ จึงนำมาลง blog นี้ครับ
แต่เล่มนี้ผมจดไว้น้อยนะครับ เพราะตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาลง blog
เล่มหน้าจะจดให้เยอะกว่านี้ครับ
เวลาเจอประโยคหรือข้อความดีๆที่น่าสนใจ ผมชอบ copy เอามาบอกต่อ เผื่อจะเป็นประโยชน์ครับ
เล่มต่อไปที่จะนำ quote มาลงคือเล่มนี้ครับ
The Little Book of Trading : Trend Following Strategy for Big Winnings
เขียนโดย Michael W. Covel เหมือนกัน เล่มนี้เพิ่งออกปี 2011 นี้เอง เป็นเล่มล่าสุดของ Covel เลย
ซึ่งผมคิดว่าเล่มที่ 2 นี้อ่านสนุกกว่าเล่มแรกเยอะเลยครับ แถมได้ quote ที่น่าสนใจเยอะดีด้วยครับ
กำลังทยอยอ่านไปจดไปอยู่ครับ
ส่วนการผสม 2 หลักการเข้าด้วยกัน VI + Trend Following จะเป็นอย่างไรนั้น
คงต้องรอดูผลลัพธ์ในอีกซัก 2 – 3 ปี ข้างหน้านะครับ
ช่วง 1 -2 ปีนี้ ขอทดลองระบบดูก่อน แล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ
####
Quote จาก ‘Trend Following : How Great Traders Make Millions in Up or Down Markets’
Respond to what happened rather than anticipating what will happen.
You are a trend follower, not a trend predictor.
Trend followers do not guess if they must buy or sell. They know what to do because they have planned.
John W. Henry ; “I knew I could not predict anything, that is why we decided to follow trends and that is why we’ve been so successful.” – Trend Following ไม่คาดเดาอนาคต แต่จะตอบสนองต่อสิ่งทีเ่กิดขึ้น –
Don’t try to guess how far a trend will go. You can’t.
Bill Dunn ; “Money management is the true survival key.”
John W. Henry ; “Most people don’t have the discipline to do what they need to do.”
John W. Henry ; “We don’t want to be the smartest person in the market. Trying to be the smart person in the market is a losing game.”
John W. Henry ; “We make more money the less we trade.”
John W. Henry ; “Our best trading days are when we don’t trade.”
– 2 ประโยคด้านบน สื่อว่า การเทรดเยอะๆหรือเทรดรายวัน ไม่ใช่สิ่งที่ Trend Following จำเป็นต้องทำ ยิ่งเทรดน้อยยิ่งดี แสดงว่า trend มันยาวเลย –
Trading systems ignore short-term volatility in the attempt to capture superior returns.
– เน้นจับ Big Trend มากกว่าหากำไรเล็กๆ้น้อยๆรายวัน มองหา trend แบบระยะยาวเพื่อกำไรที่มากกว่า –
Trends can last as long as a few months or years.
The trend is up when price is moving up.
Ed Seykota ; “Risk no more than you can afford to lose, and also risk enough so that a win is meaningful.”
You work hard to gain experience. Great experience leads to great intuition.
The typical trend follower’s portfolio is well diversified.
Ed Seykota ; “It can be very expensive to try to convince the markets you are right.”
Trend Followers are not lucky ; they are consistenly prepared.
Trend followers take what the market offers in the moment. Thy don’t predict the future.
To make money, you must be able to live with and accept volatility.
“People have a tendency to make it too complex. Trend Following inherently is very simple, but nobody wants to believe – especially investors – that something that simple can make money.”
“The reason we have done well is we have been able to stay focused and stay very disciplined. We execute the game plan – that is our real strength”
“If you have two equal solutions to a problem, pick the simplest.”
The only way to know that a trend has started is when it starts to move either up or down.
Once you take your signals and enter, trading becomes a waiting game. Wait to see what happens next.
The more volatile the market, the less you want to risk. The less volatile the market, the more you want to risk.
Commit to patience and faith in a system that is not structured on quarterly performance. Commit to thinking for the long term and not feeling insecure if you don’t have a steady earning stream.
Big trends make big profits.
####
Blog 12 : Quote จากหนังสือ ‘Trend Following : How Great Traders Make Millions in Up or Down Markets’
www.sarut-homesite.net
23 November 2011
น่าสนใจมากครับ