‘ปล่อยวางจากความกลัว’ : โดย Mark Minervini & Jairek Robbins

เมื่อคุณปล่อยวางจากผลลัพธ์ มันจะทำให้คุณสามารถทำตามแผนและกลยุทธ์ที่วางไว้ ด้วยความมั่นใจเต็มร้อย

Mark Minervini ;

“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมได้ตระหนักว่า ‘ความกลัว’ ถือเป็นปัจจัยอันดับหนึ่งที่ทำให้เทรดเดอร์ต้องสูญเสียวินัยในการเทรดของพวกเขา

การกลัวตกรถ (fear of missing out) ทำให้พวกเขาไล่ซื้อหุ้น ทั้งๆที่รู้ว่าราคามันเลยจุดที่พวกเขาควรลงมือไปไกลแล้ว

การกลัวขาดทุน ก็ทำให้พวกเขาขายหุ้นเร็วเกินไปและทำกำไรได้เพียงเล็กน้อยทั้งๆที่หุ้นยังไม่แสดงอาการอะไรให้ต้องกังวล

และการกลัวทำผิดพลาด ก็ทำให้เทรดเดอร์ไม่กล้าตัดสินใจและลงมือเทรดอย่างมั่นใจ

เทรดเดอร์ควรรับมือกับความกลัวของพวกเขาอย่างไร เพื่อที่จะสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น?”

.

Jairek Robbins ;

“มีสภาวะทางอารมณ์ที่เรียกว่า การปล่อยวาง (detachment) ที่ช่วยให้คุณดึงศักยภาพของตัวเองและทำผลงานได้ดีที่สุด

โดยเมื่อคุณปล่อยวางจากผลลัพธ์ มันจะทำให้คุณสามารถทำตามแผนและกลยุทธ์ที่วางไว้ด้วยความมั่นใจเต็มร้อย

เพราะคุณรู้ว่าบางครั้งคุณจะชนะ และบางครั้งคุณก็จะแพ้

คุณจึงต้องปล่อยวางจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณลงมือเทรดไปแล้ว

.

แนวคิดเรื่องการปล่อยวางซึ่งมีพื้นฐานมาจากปรัชญาตะวันออก จะทำให้คุณไม่ได้รับผลกระทบจากอารมณ์ด้านลบต่างๆอย่างเช่นความกลัว

การจะเข้าถึงสภาวะนั้นคุณจะต้องสร้างสิ่งที่ผมเรียกว่า “สนามพลังด้านอารมณ์” ของตัวคุณเอง

โดยในแต่ละวันคุณจะต้องทำการ “เติมเต็มและจุดไฟในตัวเอง”

.

ตัวอย่างหนึ่งนั่นคือ “การฝึกซ้อมทางจิต (mental rehearsal)”

มันคือสิ่งที่ Muhammad Ali ใช้ในการเตรียมตัวก่อนการแข่งทุกครั้ง และเป็นสิ่งที่นักกีฬาชื่อดังคนอื่นๆเชื่อและทำเช่นกัน

ก่อนจะอธิบาย ผมขอชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่สำคัญอย่างหนึ่งนั่นคือ

การฝึกซ้อมทางจิตไม่ใช่การสร้างภาพหรือจินตนาการเชิงบวก (visualization) ซึ่งเป็นจุดที่หลายคนเข้าใจผิด

.

เพราะว่าการสร้างภาพเชิงบวกในหัวคือการจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

แต่ความจริงมันไม่ใช่!

เพราะสำหรับเทรดเดอร์มันจะหมายถึง การสร้างภาพขึ้นว่าในการเทรดทุกครั้งคุณจะได้กำไร (คิดถูกทุกครั้ง)

ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย

.

หากคุณสร้างภาพทุกอย่างไว้ในเชิงบวกแต่กลับมีผลขาดทุน

ระบบประสาทและอารมณ์ของคุณก็จะเริ่มถูกกดดัน

คุณจะรู้สึกแย่ และความกลัวทั้งหมดที่คุณมีก็จะเกิดขึ้นมาจริงๆ

.

การควบคุมความกลัวเหล่านั้นจะต้องใช้การฝึกซ้อมทางจิต

เริ่มจากการนึกภาพว่าคุณต้องการเห็นอะไรบ้างเพื่อให้การเทรดแต่ละครั้งออกมาดีที่สุด

ถ้าคุณลงมือทำตามแผนทีละขั้นตอน คุณก็จะเทรดเข้า-ออกจากตลาดได้อย่างง่ายดายโดยไม่รู้สึกกดดันอะไรนัก

อย่างไรก็ตาม คุณต้องนึกภาพในอีกมุมด้วยว่า คุณทำสิ่งเดียวกัน คือค้นหารูปแบบการเทรดที่ดีและทำตามแผนของคุณอย่างขยันขันแข็ง

แต่คราวนี้คุณเห็นว่าตลาดและหุ้นวิ่งสวนทางกับคุณ

ราคาหุ้นไม่เป็นไปตามที่คุณคาดหวังไว้ การเทรดของคุณจบลงด้วยผลขาดทุนเล็กน้อย

คุณเห็นตัวเองยอมรับการขาดทุน , สูดลมหายใจเข้าออก , เอามันออกไปจากหัว , แล้วกลับไปนั่งเพื่อค้นหาการเทรดครั้งต่อไปของคุณ

.

การฝึกซ้อมทางจิตของคุณจะรวมทั้งการเห็นภาพว่าคุณเทรดแล้วประสบความสำเร็จได้กำไรในบางเทรด

และเห็นภาพว่าคุณต้องเจออุปสรรคและมีผลขาดทุนในการเทรดครั้งอื่นๆด้วย

ยิ่งคุณฝึกซ้อมมากเท่าไหร่ และเห็นว่าตัวเองสามารถยึดมั่นในวินัยและแผนการเทรดได้ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม

คุณก็จะสามารถลดความวิตกกังวลลงได้มากขึ้นเรื่อยๆ

.

คุณจะเห็นตัวเองเริ่มต่อต้านแรงดึงดูดที่ทำให้อยากไล่ราคาหุ้น ,

คุณจะเห็นตัวเองยึดมั่นในจุดตัดขาดทุน และออกจากการเทรดโดยมีผลขาดทุนเล็กน้อย

ถึงแม้ราคาหุ้นอาจจะกลับตัวแล้ววิ่งขึ้นไปใหม่โดยที่ไม่มีคุณอยู่ด้วยก็ตาม

คุณรู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นกับคุณ เช่นเดียวกับที่พวกมันเกิดขึ้นกับเทรดเดอร์ทุกคน

.

การพัฒนาความสามารถในการฝึกซ้อมทางจิตเพื่อเตรียมรับมือเหตุการณ์เหล่านี้ ทุกวันก่อนที่คุณจะเริ่มเทรด

จะช่วยเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น

เหมือนกับที่ Ali เตรียมตัวของเขาให้พร้อมที่จะรับหมัด รับความเจ็บปวด และยังยืนสู้ต่อไปได้

เมื่อการชกเกิดขึ้นจริงบนเวทีมวย เขาก็มีความพร้อมในจิตใจที่ทำให้สามารถยืนหยัดต่อสู้ได้ยาวนานกว่าคู่แข่ง

และนั่นทำให้เขาเป็นนักมวยที่แข็งแกร่งที่สุด”

.

Mark Minervini ;

“นั่นเป็นคำตอบที่ดีมากและเป็นคำแนะนำที่นำไปใช้ได้จริง ส่วนนี่เป็นคำตอบที่ผมชอบใช้

คือ ‘คุณจะต้องเปลี่ยนจากการสนใจแต่ผลลัพธ์ไปสู่กระบวนการ’

หากใช้กีฬาประเภทอื่นมาเปรียบเทียบ สมมติว่าคุณเป็นนักเบสบอลแล้วกำลังจะตีลูก

คุณจะไม่สามารถตีโฮมรันได้เลยหากมัวแต่สนใจหรือถูกรบกวนจากป้ายคะแนน

เพราะเป้าหมายจริงๆของคุณคือ การตีลูกเพื่อทำคะแนนให้ได้

.

ถ้าคุณทุ่มเทใส่ใจกับงานที่กำลังทำอยู่ คุณก็จะทำมันได้ดี และผลลัพธ์หรือคะแนนก็จะสะท้อนกลับมาเอง

ผลตอบแทนของผมเปลี่ยนจากระดับกลางๆไปสู่ระดับสูงได้ เมื่อตอนที่ผมตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าผมจะไม่สนแค่ตัวเงินหรือผลลัพธ์

.

กล่าวคือ ผมเลิกสนใจป้ายคะแนนหรือตัวเลขกำไรขาดทุน

แต่ผมจะโฟกัสไปที่การเป็นเทรดเดอร์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

และพยายามทำให้การตัดสินใจทุกครั้งเป็นไปอย่างมีคุณภาพ หลังจากนั้น ผลตอบแทนของผมก็เกิดขึ้นตามมา

.

การทำเงินนั้นเป็นผลจากการทำตามแผนที่คิดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

การสนใจแต่ผลลัพธ์จะทำให้คุณถูกรบกวนหรือชักจูงออกจากสิ่งที่คุณต้องทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่คุณต้องการ

ผลตอบแทนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณทำตามแผนการเทรดของคุณเอง

และนั่นคือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุด”

.

– Mark Minervini with Performance Coach Jairek Robbins –

*ตัวอย่างจากหนังสือ Think & Trade Like a Champion ภาษาไทย

Author: admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.