Edited (2017) :
ผมอัพโหลดคลิปลง youtube ไว้แล้ว ดูแบบเต็มๆกันได้เลย 1 ชม. (มีซับ eng)
ส่วนสรุปเนื้อหาอยู่ด้านล่างวีดีโอครับ >>
.
…
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. เวบไซต์ IBD ได้จัดสัมนาออนไลน์ (Webinar) ในโอกาสครบรอบ 30 ปี โดยมีผู้บรรยายคือ William O’Neil และ Chris Gessel
เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นข้อคิดการลงทุนจากประสบการณ์การเทรดหุ้นกว่า 50 ปี ของ William O’Neil
ผมตื่นมานั่งดูแล้วจดสรุปไว้เลยเอามาแชร์ครับ
(รูปประกอบให้คลิกที่รูปเพื่อดูขนาดใหญ่นะครับ)
####
– จากประสบการณ์ของ O’Neil เขาพบว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม หุ้นที่เป็น Big Winner ในแต่ละปีก็ยังคงมีลักษณะเช่นเดิมเสมอ
โดยปัจจัยหลักที่ขับดันราคาหุ้นก็คือ Earning & Sale Growth และมี Price Pattern (กราฟ) ที่แข็งแกร่ง
– การซื้อหุ้นได้ถูกจังหวะ จะทำให้ได้ต้นทุนต่ำ-ไม่ต้องถือรอนานเกินไป และยังช่วยให้สามารถถือหุ้นผ่านช่วงที่ปรับฐานรอบแรกๆ หลังจากที่ขึ้นมาพอสมควรได้ง่ายขึ้น
(keep low avg. cost & buy near base)
…
ตัวอย่างการสังเกตหุ้นแข็งแกร่ง
: หุ้น price club ในช่วง correction เมื่อตลาดทำ new low แต่หุ้นกลับพักนิ่งๆ และเริ่มทำ new high (ดูรูปประกอบ)
…
– ทำไมเส้น long-term MA จึงใช้ได้ผล?
: เพราะสถาบัน-กองทุน หรือนักลงทุนรายใหญ่ จำเป็นต้องทยอยสะสมหุ้นเนื่องจากเม็ดเงินที่เยอะมาก (ไม่งั้นต้องไล่ราคาสูงเกิน)
ดังนั้น การเก็บหุ้นจะต้องใช้เวลานานหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ไม่สามารถซื้อได้ในวันเดียว ทำให้ big player จึงมักจะหาโอกาสรับหุ้นช่วงที่ย่อลงมาแรงๆ
– นอกจากนี้ ที่ long-term MA มักจะมี buy support อยู่บ่อยครั้ง เราสามารถใช้เพื่อสังเกตว่า big buyer เช่น สถาบัน กองทุน หรือนักลงทุนรายใหญ่ ยังคงซื้อหุ้นอยู่หรือไม่ที่แนวรับสำคัญต่างๆ
(ช่วงที่ตลาดจะแย่จริงหรือเกิด crisis ก็จะไม่มีใครกล้ารับหุ้น หรือพื้นฐานกิจการเปลี่ยนจนเกิดการขายทิ้งอย่างมากจนรับไม่ไหว ทำให้หุ้นตัวนั้นหลุด long-term Support ได้)
…
– โอนีลพยายามที่จะไม่ขายหุ้นเพียงเพราะว่ามันขึ้นมาเยอะ หรือใครๆก็บอกว่ามันแพง แต่เขาจะขายเมื่อราคาหุ้นเริ่มแสดงออกว่ามันจบแนวโน้มแล้วเท่านั้น
– คุณต้องมี sell rule ที่ชัดเจน เพราะเมื่อตลาดจะพัง ไม่ว่าหุ้นดีแค่ไหนก็ตามมันก็ลงได้หมด
โดยเฉลี่ยแล้วหุ้นที่เคยเป็น big winner จะตกลงมากกว่า 50% ในช่วงวิกฤตหรือการปรับฐานครั้งใหญ่ (ยังไม่นับหุ้นทั่วไปที่อ่อนแอกว่ากลุ่ม leading stocks อีก)
– ช่วงที่ตลาดกำลัง correction เมื่อทำ new low แล้วเกิดการเด้งกลับอย่างรวดเร็ว เป็นจุดที่เราต้องจับตาดูว่าตลาดจะกลับตัวได้หรือไม่
– ภาวะตลาดปัจจุบันโอนีลแนะนำ cut loss ที่ 5-7% และต้องคุมการขาดทุนให้น้อยที่สุด
– โอนีลสอนว่า สิ่งสำคัญคือเราต้องเรียนรู้ที่จะดูกราฟราคา ถึงแม้ว่าในขั้นตอนการคัดกรองหุ้นเขาจะเริ่มจากพื้นฐานก่อนก็ตาม แต่ว่าหุ้นตัวนั้นต้องมีลักษณะกราฟที่ดูดีด้วยเช่นกัน
…
– put-call ratio ไว้ใช้ดูจิตวิทยาหมู่ (mass)
– เมื่อไม่มีใครคิดว่าหุ้นจะตก คุณต้องเริ่มระวังตัวให้มาก หรือเมื่อคนส่วนใหญ่เริ่มมองลง ตลาดก็มักจะเริ่มขึ้นเช่นกัน
…
– จุดที่ Mass เริ่ม panic เหล่าสถาบันจะเข้ามา support เก็บหุ้นอย่างเงียบๆ
– การดูภาพรวมเศรษฐกิจ สังคม การเมือง จะช่วยให้เข้าใจภาพใหญ่ของประเทศ-ตลาดหุ้นได้มากขึ้น รวมถึงมุมมองของเหล่าสถาบันต่างๆ
– Bear Market จะสิ้นสุดเสมอ ถึงแม้ว่าบางครั้งจะนาน 6 เดือน 1 ปี หรือหลายปี เมื่อประเทศเกิด catalyst ใหม่ๆ เช่น นวัตกรรมใหม่ต่างๆ
การที่ตลาดหุ้น us กลับมาได้เสมอก็เพราะศักยภาพของประเทศ – บริษัทเอกชน
– buy low, sell high นั้นฟังดูดี และอาจจะใช้ได้กับ paper trading แต่เมื่อคุณเข้ามาเล่นหุ้นจริงๆจะพบว่า การซื้อหุ้นแล้วเจอช่วงที่ราคามันตกลงไปอีกมากๆนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด
การต้องทนถือดูหุ้นร่วงลงไปเรื่อยๆนั้นไม่ใช่เรื่องสนุก ดังนั้น พยายามอย่าติดดอยหุ้น
– เราชอบการปรับฐาน เพราะมันเป็นโอกาสดีที่จะได้มองหาหุ้นที่มีโอกาสเป็น big winner ตัวใหม่ และเราก็ไม่ติดดอยหุ้นแน่ๆ
– market collapse มักจะทำให้คนกลัวและหนีออกจากตลาดหุ้น แต่นั่นคือช่วงเวลาที่คุณควรเตรียมตัวให้พร้อม
เพื่อเตรียมตัวจับ big winner ตัวแรกๆเมื่อตลาดเริ่มกลับมา
– ถ้าคุณศึกษาประวัติศาสตร์ตลาดหุ้น หลังจาก correction แรงๆ ก็มักจะตามมาด้วย new high เสมอ (อยู่ที่ช้าเร็ว)
– sector rotation เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นประจำในช่วงขาขึ้น การสังเกต volume และกราฟของหุ้นแต่ละกลุ่ม จะช่วยให้รู้ได้ว่าตอนนี้เงินเริ่มไหลไปเข้ากลุ่มไหน
..
– พูดถึง algo & HFT (High-frequency trading) ในปัจจุบัน โอนีลบอกว่า ‘Doesn’t effect big winner’
กล่าวคือ พวก HFT อาจกระทบกับราคาและทำให้ผันผวนมากขึ้นในระยะสั้น เช่น ช่วงที่หุ้นเพิ่ง break แนวสำคัญ
แต่ system เหล่านี้ก็มีมา 10-20 ปีแล้ว ทำให้โอนีลมองว่าไม่ต่างจากในอดีตมากนัก
นอกจากนี้ การเป็นรายย่อยก็จะได้เปรียบเพราะ HFT ไม่มีผลอะไรกับแนวโน้มระยะยาวของหุ้น
แถมบางครั้งอาจเป็นโอกาสให้เราไปรับหุ้นเวลาที่พวก algo – HFT เขา panic กันด้วย
“Market is bigger than any HFT”
…
– เรื่องการเทรดแล้วต้องเสียภาษี โอนีลไม่กังวลเลยเรื่องการเสียภาษี เพราะถ้าคุณทำเงิน-ทำกำไรได้ คุณก็ควรเสียภาษีบ้างสิ!
– 6 เดือนหน้าเจอกันใหม่
“Learning to invest is a lifelong skill no one can ever take away from you.
.
If you’re just starting out, remember the best way to succeed is to never give up”
– William J. O’Neil –
….
Blog 47 : สรุปเนื้อหาสัมนา “‘IBD 30 Years’ – Past, Present, and Future Market Leaders”
18 พ.ค. 2014
ได้อ่านก่อนนอน ….. หลับสบายเลยฮะ