ความคิดสร้างสรรค์ หรือการคิดที่จะทำสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นนั้น บางครั้งก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้เกิดการพัฒนาที่ดีได้….
สิ่งประดิษฐ์หลายอย่างในโลกที่สร้างประโยชน์ให้กับคนเป็นจำนวนมาก ล้วนแล้วแต่สร้างมาจากความคิดสร้างสรรค์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน หลอดไฟ และอีกหลายๆอย่างที่มากเกินจะบรรยาย แต่ความคิดสร้างสรรค์นั้นมักจะอยู่ได้ไม่นาน เมื่อขาดความมั่นใจ
ลองสมมติเหตุการณ์เล่นๆดูนะครับ ว่าในครั้งที่ 2 พี่น้องตระกูลไรท์คิดค้นวิธีที่จะทำให้คนบินได้ แล้วถูกเพื่อนๆ หรือญาติสนิทรอบๆตัว บอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก คนจะบินเหมือนนกได้ยังไง ด้วยความที่มีความมั่นใจต่ำทำให้ทั้ง 2 พี่น้องยุติความฝันดังกล่าว ทุกวันนี้การพัฒนาด้านการบินอาจจะยังมาไม่ถึงขั้นนี้ก็ได้
แล้วเรื่องความคิดสร้างสรรค์ กับความมั่นใจ มันมีผลอะไรกับการลงทุนของเราบ้าง….
ในฐานะของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าคนหนึ่ง ตลอดชีวิตการลงทุนของผมเวลาคุยเรื่องหุ้นกับคนอื่น (ที่ไม่ใช่ VI) ผมมักจะคุยกับเค้าไม่ค่อยรู้เรื่อง หุ้นที่เราเล่น บอกไปก็ไม่มีใครรู้จัก หรือใครมีข่าวอะไรเอามาบอกว่าหุ้นตัวนี้ดีหุ้นตัวนี้จะวิ่ง เราเองก็ได้แต่ทำไม่สนใจกับข่าวดังกล่าว เพราะหุ้นที่ VI ชอบเล่นส่วนใหญ่นั้น มักจะไม่ใช่หุ้นยอดนิยมที่มีคนเล่นกันเหมือนหุ้นพวก ptt pttep scc top อะไรพวกนั้น …
บางคน ตอนพยายามเริ่มต้นจะลงทุนแบบเน้นคุณค่าใหม่ๆ อาจจะถูกค่อนขอดจากมาร์เก็ตติ้งได้ว่า “พี่ซื้อหุ้นนี้จะดีเหรอ ไม่มีใครเค้าเล่นกันหรอก” หรือ “โวลุ่มต่ำแบบนี้ ซื้อไปแล้วตอนขายอาจจะขายไม่ได้เอานา”และคำพูดอีกมากมายรอบข้างที่จะทำให้ผู้เริ่มต้นการลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น ไขว้เขวในแนวทางได้ง่าย
หลายๆคนอาจจะเริ่มต้นใหม่ๆ ลองซื้อหุ้น vi ซัวตัว แต่ด้วยความเป็นมือใหม่ก็ทำให้ขาดทุนได้ และแล้ว เพื่อนๆ หรือมาร์เก็ตติ้งก็เริ่มค่อนขอดเราอีก “บอกแล้วไม่เชื่อ หุ้นแบบนี้ไม่มีใครเค้าเล่นกัน เป็นไงละขาดทุนเลย”
พอเจอแบบนี้เยอะเข้าๆ จากที่เคยคิดว่าการลงทุนแบบ vi นั้นดี ก็กลายเป็นเกิดความสงสัยขึ้นมาในใจว่า “เอ.. มันดีจริงรึเปล่า” “ถ้าการลงทุนแนวนี้มันดีจริง ทำไมคนเล่นแนวนี้มันน้อยเหลือเกิน”
จนความสงสัยเคลือบแคลงมากขึ้นๆ สุดท้ายก็เลยกลับไปเล่นหุ้นยอดนิยม หรือเล่นหุ้นตามข่าว อย่างที่คนอื่นเค้าเล่นๆกัน …. โอกาสที่จะเข้ามาเจอโลกที่แท้จริง การลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่แท้จริงก็น้อยลง
การเริ่มต้นที่จะหันมาศึกษาและลงทุนในแนว vi นั้น นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นแบบมีความคิดสร้างสรรค์อย่างหนึ่ง เพราะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่เค้าไม่ทำกัน แต่ถ้าขาดความมั่นใจ เหตุการณ์ที่คล้ายๆเรื่องสมมติในย่อหน้าที่ผ่านมาก็อาจจะเกิดขึ้นได้ และทำให้ไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์ที่ตั้งไว้แต่แรกได้
มีเรื่องเล่น เรื่องหนึ่งที่ผมได้อ่านในหนังสือ The Intelligence Investor เป็นเรื่องของ อาจารย์ 2 ท่านกำลังเดินคุยไปคุยไป คนหนึ่งมองเห็นแบงค์ 20 ดอลล่าร ตกอยู่ เลยก้มลงไปเพื่อที่จะเก็บ แต่อาจารย์อีกท่านจับแขนและห้ามเอาไว้ แล้วบอกว่า”ถ้ามันเป็นแบงค์ 20 ดอลล่าร์จริงๆ ก็คงมีคนเก็บไปแล้ว” …
ประโยคแบบนี้ไม่ทราบคุ้นๆกันบ้างรึเปล่าครับ เรามักจะได้ยิน หรือ บางทีก็เป็นคนพูดซะเอง เมื่อมีใครคิดอะไรใหม่ หรือมีความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้น ลองดูตัวอย่างเหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดคำพูดแบบนี้กันนะครับ
– 2 พี่น้องตระกูลไรท์คิดจะหาวิธีบิน เพื่อนๆและญาติพูดว่า “ถ้าคนเราบินได้จริงๆ คงมีคนบินไปแล้ว”
– เพื่อนมาปรึกษาเราว่าจะเปิดธุรกิจทัวร์กินอาหารแบบหรูหราในต่างประเทศที่ยัง ไม่มีใครทำ เราก็บอกเพื่อนไปว่า “ถ้าธุรกิจนี้มันดีจริงๆ คงมีคนทำไปแล้ว”
– การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ถ้ามันดีจริง ทำไมไม่ค่อยมีคนเล่นกันละ
– และสุดท้ายเป็นแนวคิดด้านการลงทุนที่ถูกสอนกันทั่วโลก ในชื่อว่า ทฤษฎีตลาดมีประสิทธิภาพ ที่เชื่อว่าราคาเหมาะสมของหุ้นนั้นคือราคาที่เห็นอยู่บนกระดานซื้อขายหุ้น นั้นเอง เพราะถ้าหุ้นมีราคาถูก คนก็จะเข้ามาซื้อจนทำให้ราคาหุ้นนั้นขึ้นมาอยู่ในระดับที่ควรจะเป็น ถ้าหุ้นแพงคนก็จะขายออกมาทำให้ราคามันลง ดังนั้น จึงไม่มีประโยชน์ที่จะหาราคาหุ้น เพราะมันเหมาะสมอยู่ในตัวเองแล้ว แนวคิดนี้เหมือนเป็นการบอกว่า “ถ้าหุ้นมันดี ก็มีคนซื้อไปแล้วแหละ”
คนเราถ้าจะต้องการมีอะไรที่เหนือกว่าคนอื่น ต้องทำอะไรที่แตกต่าง ไม่ใช่มัวแต่คิดว่า “ถ้ามันดีคงมีคนทำไปแล้ว” การลงทุนก็เช่นกัน ถ้ามัวแต่คิดว่า “ถ้าหุ้นดี คงมีคนซื้อไปแล้วแหละ” คิดแบบนี้ยากครับที่จะประสบความสำเร็จ คนที่คิดแบบนี้ทำได้เต็มที่ก็แค่เท่าๆกับค่าเฉลี่ยเท่านั้น …..
ปล.นอกจากที่ผมอยากให้ลืมความคิดแบบนี้ไป และมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำแล้ว .. อยากจะฝากอีกเรื่องนึงคือ ถ้ามีใครคิดทำอะไรที่มันสร้างสรรค์ หรือมีคนคิดจะทำอะไรใหม่ๆ ขอร้องนะครับ อย่าพูดคำนี้ให้เค้าได้ยินเลย เหมือนเป็นการทำลายฝันของคน
สร้างสรรค์ และ มั่นใจ
Yoyo’s Value Investing Way
สันติ สิงหวังชา
Friday, 28 March 2008